ชมรมรักษ์ภูเก็ตพร้อมคนภูเก็ตรวมตัวค้าน นปช.ตั้งหมู่บ้านแดง

ชมรมรักษ์ภูเก็ตและประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ตรวมตัวต้านการจัดกิจกรรมเปิดหมู่ บ้านเสื้อแดงของกลุ่ม นปช.ในจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากจะสร้างความแตกแยกในกลุ่มประชาชน และสังคมมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญ ขัดแย้งกับกระบวนการปรองดองที่รัฐบาลดำเนินการอยู่อย่างสิ้นเชิง พร้อมประกาศเดินหน้าคัดค้านเต็มที่

          เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 พ.ค.55 ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ชมรมรักษ์ภูเก็ต และประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ต นำโดย นายบุญศุภภะ ตัณทัยย์ ประธานชมรมรักษ์ภูเก็ต รวมตัวยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อคัดค้านการจัดกิจกรรม และเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงของกลุ่ม นปช.ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ

            อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีการยื่นหนังสือกลุ่มผู้ชุมนุมได้รวมตัวกันเดินขบวนจากหน้าศาลา กลางเข้ามาภายในศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โดยมีการถือป้ายข้อความต่างๆ เข้ามาด้วย เช่น “ที่นี่ภูเก็ต ไม่ต้องการพวกเผาบ้านเผาเมืองออกไป” “เกาะภูเก็ตจะไม่เป็นเกาะเสื้อแดงเป็นอันขาด” “คนบ้านเราไม่ต้อนรับหมู่บ้านเสื้อแดง ออกไป” “ชมรมรักษ์ภูเก็ตคัดค้านการจัดตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงในจังหวัดภูเก็ต” “แดงทั้งแผ่นดินเขมร” “ไม่มีดินผืนใดให้ไออุ่นเท่ากับผืนแผ่นดินแห่งนี้อย่ามาคิดแบ่งแยกพวกเรา ออกไปเสื้อแดง” พร้อมกับเคลื่อนขบวนวนรอบศาลากลาง 1 รอบ ก่อนที่จะมีการอ่านแถลงการณ์คัดค้านการจัดกิจกรรม และเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงของกลุ่ม นปช.ภูเก็ต

           โดยนายบุญศุภภะ ตัณทัยย์ ประธานชมรมรักษ์ภูเก็ต ได้อ่านแถลงการณ์มีใจความดังนี้ “ตามที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. หรือที่รู้จักในนามกลุ่มคนเสื้อแดง กำหนดจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง และเดินหน้าเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงในจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งขณะนี้ได้มีการหารือกับพี่น้องชาวภูเก็ตกลุ่มต่างๆ และมีความเห็นตรงกันว่า ไม่สมควรอย่างยิ่งกับการจัดกิจกรรมดังกล่าวของกลุ่ม นปช. ณ จังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 13 พฤษภาคม 2555 ณ อุทยานแห่งชาติหาดในยาง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

           เนื่องจากจะสร้างความแตกแยกในกลุ่มประชาชน และสังคมมากยิ่งขึ้น ซึ่งขัดแย้งกับกระบวนการปรองดองที่รัฐบาลดำเนินการอยู่อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญ อาจก่อให้เกิดการรวมตัวของประชาชนผู้ไม่เห็นด้วย อาจเกิดการปะทะกัน อันจะสร้างภาพลักษณ์ด้านลบให้ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ระหว่างการสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่อง เที่ยว หลังต้องเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติ หากเกิดเหตุรุนแรงทางการเมืองขึ้นอีกจะทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเสียหาย

           นอกจากนี้ ชาวภูเก็ตยังตั้งข้อสงสัยถึงการเปิด “หมู่บ้านเสื้อแดง” ของกลุ่ม นปช.ว่ามีจุดประสงค์ใด เพราะการจัดกิจกรรมทุกครั้งจะมีบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือใกล้ชิดกับรัฐบาลเป็นตัวแทน ทำให้เชื่อว่าการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงของ นปช.จะเป็นการขยายผลทางการเมืองของรัฐบาลมากกว่าการสร้างผลประโยชน์ให้ ประเทศชาติ ที่สำคัญ การปราศรัย และการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.ระหว่างการจัดกิจกรรมในจังหวัดต่างๆ ที่ผ่านมาไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อคนส่วนรวม หรือเห็นประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง โดยสังเกตลักษณ์ของหมู่บ้านเสื้อแดงดังนี้
     
       1.ปักธงสีแดงทุกหมู่บ้านแทนธงไตรรงค์ เป็นการกระทำที่เป็นปรปักษ์ต่อประเทศชาติอย่างร้ายแรง ทุกวันนี้ประเทศไทยมีเพียงธงไตรรงค์เป็นธงประจำชาติ ไม่เคยใช้ธงสีแดงเป็นธงประจำชาติ
       2.หมู่บ้านแดงจะเชิดชูภาพนักโทษชายทักษิณขึ้นประดับฝาบ้าน แทนภาพของในหลวง นี่เป็นความจริงที่คนภูเก็ต และคนไทยทุกคนรับไม่ได้ และไม่ต้องการให้เกิดขึ้นไม่ว่าที่ไหนเมื่อไร

          หากมีปรากฏการณ์หมู่บ้านเสื้อแดงดังกล่าวจริง ขอให้ชาวภูเก็ตที่หลงผิดจงตั้งสติยั้งคิดเสียใหม่อย่าหลงเชื่อการชี้นำของ กลุ่ม นปช.และขอเรียกร้องให้กลุ่ม นปช.หยุดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นในจังหวัดภูเก็ต หรือหากกลุ่ม นปช.ยังยืนยันว่าจะจัดกิจกรรมดังกล่าวต่อไปขอให้หน่วยงานความมั่นคง หรือผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปร่วมสังเกตการณ์ และตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ป้องกันไม่ให้มีการปราศรัยจาบจ้วง หรือจัดกิจกรรมส่งเสริมให้เกิดความแตกแยกขึ้นในกลุ่มประชาชน และ นปช.อย่าได้ใช้กิจกรรมเหล่านี้ปราศรัยจาบจ้วงล่วงละเมิดเหมือนที่ผ่านมา เพราะจะเป็นชนวนสร้างความแตกแยก ซึ่งชาวภูเก็ตไม่ยอมให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน”

            อย่างไรก็ตาม หลังจากที่แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมอ่านแถลงการณ์จบก็ได้ยื่นหนังสือแถลงการณ์ ผ่านทาง นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมกับกล่าวภายหลังการยื่นหนังสือ ว่าจะรับเรื่องไว้ และรายงานให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตทราบต่อไป ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย การมารวมตัวของกลุ่มประชาชนในครั้งนี้ก็เป็นการปฏิบัติตามระบอบประชาธิปไตย และหลังจากนี้จะมีการประชุมหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ตรวจสอบดูแลประชาชน ในพื้นที่ให้อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข

           ขณะที่ นายบุญศุภภะ ตัณทัยย์ ประธานชมรมรักษ์ภูเก็ต ได้กล่าวกับกลุ่มผู้ร่วมชุมนุม หลังจากยื่นหนังสือ ว่า ในส่วนของคนภูเก็ตจะไม่ยอมให้เกิดความแตกแยกขึ้นในพื้นที่ และในวันที่ 13 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น. จะนัดรวมตัวกันอีกครั้งที่ปากทางเข้าอุทยานแห่งชาติหาดในยางเพื่อแสดงให้ เห็นว่าคนภูเก็ตคัดค้านการจัดกิจกรรม และการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงของกลุ่ม นปช.ในจังหวัดภูเก็ต

ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์